วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

รักกันครั้งหนึ่งคิดถึงตลอดไป

รักกันครั้งหนึ่งคิดถึงตลอดไป...
หัวใจของฉันสะดุดกับชื่อของเพลงๆ นี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยฟังเลยสักครั้ง
แล้วฉันก็ตัดสินใจเปิดเพลงนี้จากเสียงร้องของ เต้ วิทย์สรัช

"ภาพทุกภาพยังจดจำ ราวกับเพิ่งเมื่อวานนี้
ในวันที่ฝนพรำ นั้นเธอเดินจากฉันไป
ทุกทุกครั้งที่มองดาว ก็ยังทำให้เหงาใจ
ไม่ว่าจะพบใคร ไม่ว่าจะรักใคร ไม่ต่างกัน
อาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ แต่อยู่กับความรักที่มีวันนั้น
ค่ำลงทุกคืน หลับตาทุกคราว ก็ยังคิดถึงเธอ แล้วมีน้ำตา
ปฏิทินจะพลิก ไปสักกี่ครั้งนาฬิกาจะเดินวนไปเท่าไรก็ไม่เคย ลบเลือนภาพเธอ จากใจ
เธอรู้ บ้างหรือเปล่า ว่าใจฉันไม่เคยรักใคร ได้เท่า กับเธอ
หรือว่านี่คือราคา แลกกับการได้รักเธอคือยังจะต้องเจ็บ และจำเธอฝังใจ ไม่เปลี่ยนไป
อาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ แต่อยู่กับความรักที่มีวันนั้น
ค่ำลงทุกคืน หลับตาทุกคราว ก็ยังคิดถึงเธอ แล้วมีน้ำตา
ปฏิทินจะพลิก ไปสักกี่ครั้งนาฬิกาจะเดินวนไปเท่าไรก็ไม่เคย ลบเลือนภาพเธอ จากใจ
เธอรู้ บ้างหรือเปล่า ว่าใจฉันไม่เคยรักใคร ได้เท่า กับเธอ
อาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้แต่อยู่กับความรักที่มีวันนั้น
ค่ำลงทุกคืน หลับตาทุกคราว ก็ยังคิดถึงเธอ แล้วมีน้ำตา
ปฏิทินจะพลิก ไปสักกี่ครั้งนาฬิกาจะเดินวนไปเท่าไรก็ไม่เคย ลบเลือนภาพเธอ จากใจ
ไม่รู้ถึงวันไหน กว่าที่ฉันจะลืม ว่าเคยรักเธอ หมดใจ"

ความรัก เป็นเหมือนสายลมที่แผ่วเบา
แม้จะย่องเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของเราอย่างเงียบๆ
แต่ทว่า..เมื่อรักนั้นตรึงตราก็ยากนักจะลืมเลือน

ฉันไม่แน่ใจว่า ความรักมีสูตรตายตัวหรือเปล่า
กระทั่งบางคราวก็รู้สึกว่า..รักคือการโคจรของความพลัดพราก
เหมือนดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ที่ไม่เคยบรรจบมาเจอกัน
แต่ต่างก็รู้ถึงความสำคัญของหน้าที่ที่ตนดำรงอยู่
หรือบางทีความรักอาจจะเหมือนยาขมสักหม้อ
ถ้าไม่กล้าทาน..โรคทางใจก็ไม่หายขาด
ยาขมหม้อนั้น..ถ้าเราทานลงไป แล้วโรคทางใจมันหาย
แต่จะเกิดโรคใหม่ขึ้นมาหรือเปล่า..
"โรคของความผูกพัน"
ถ้าโรคนั้นเกิดขึ้น เราจะต้องทานยาขมสักกี่หม้อ...

ถึงเธอผู้เป็นที่รัก.....
วันนี้ฉันอยากจะบอกกับเธอเหลือเกินว่า..
ฉันไม่อยากเป็นดวงอาทิตย์
ฉันไม่อยากเป็นสายลม
และฉันไม่อยากเป็นแสงแดด
แต่หากเธอเป็นดั่งพระจันทร์..

ฉันขอได้ไหม..ขอเป็นดั่งลายกระต่ายในใจจันทร์